รูดิเกอร์ รับไม่เป็นเพียงตัวสำรองแต่ยังหวังแย่งตัวจริงกลับมา
อันโตนิโอ รูดิเกอร์ กองหลังของ เชลซี ยอมรับว่าเขาไม่ปลาบปลื้มนักกับสถานการณ์ของตัวเองในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ หลังจากต้องดิ้นรนเพื่อหาโอกาสลงสนาม ก่อนเข้าสู่ช่วงตลาดซื้อขายเดือนมกราคมนี้
รูดิเกอร์ ลงเล่นไป 120 นัดรวมทุกรายการให้กับ เชลซี นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อาแอส โรม่า ด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ 2019 กองหลังทีมชาติเยอรมนีกลายเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทัพสิงห์บลูส์คว้า แชมป์เอฟเอ คัพ และ ยูโรป้า ลีก ในช่วง 2 ฤดูกาลแรกที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
รูดิเกอร์ รับไม่เป็นเพียงตัวสำรองแต่ยังหวังแย่งตัวจริงกลับมา
อย่างไรก็ตามเขาตกอันดับตัวเลือกนับตั้งแต่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เข้ามาเป็นเฮดโค้ชของเชลซีเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คซึ่งนั่นทำให้เขาลงสนามในพรีเมียร์ลีกไปเพียงเกมเดียวเท่านั้นในฤดูกาลนี้
ติอาโก้ ซิลวา และ เคิร์ต ซูม่า คือคู่หูเซ็นเตอร์แบ็คของ แลมพาร์ด โดยการคาดเดาอนาคตของ รูดิเกอร์ กำลังโหมกระหน่ำอย่างต่อเนื่องเมื่อเขากำลังเข้าสู่ช่วง 18 เดือนสุดท้ายของสัญญา ดาวเตะวัย 27 ปีไม่พอใจที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนาม แต่ก็ยืนยันว่าเขาไม่ได้คิดเกี่ยวกับการย้ายทีมและบอกว่ามุ่งมั่นที่จะแย่งตำแหน่งของตัวเองกลับมาอีกครั้ง
“ผมไม่สามารถพอใจกับสถานการณ์ของตัวเองได้ แต่การต่อสู้ได้รับการยอมรับแล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นในเดือนมกราคมเป็นหนทางที่ยาวนาน ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างเต็มที่” รูดิเกอร์ บอกกับ ZDF
การแข่งขันฟุตบอลในอังกฤษยังคงสานต่อการแสดงออกถึงการต่อต้านเหยียดผิว ซึ่งเหล่านักเตะและทีมงานสต๊าฟฟ์โค้ชทุกคนในสนามจะคุกเข่าก่อนเกมทุกนัด รูดิเกอร์ เชื่อว่าความคืบหน้ากำลังเกิดขึ้นในอังกฤษเกี่ยวกับการจัดการกับปัญหาดังกล่าวในวงการฟุตบอล โดยเขากล่าวว่า “พวกเขาทำหลายอย่างในอังกฤษ ผมคิดว่ามันดีมาก ๆ เราจะไม่ถอนกำลัง 100 เปอร์เซ็นต์ มันจะมีคนประเภทนี้เสมอ แต่ผมพอใจเพราะดีใจที่ได้เห็นบางอย่างเกิดขึ้น”
รูดิเกอร์ เพิ่งควักเงินส่วนตัวเลี้ยงพิซซ่าเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล 13 แห่งในประเทศเยอรมนี รวมกว่า 420 ชีวิต เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานหนักช่วงวิกฤติการระบาดของโคโรน่าไวรัส
“เป็นเรื่องน่าเศร้าที่สถานการณ์เริ่มแย่ลงอีกครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คนที่ทำงานอยู่ในตอนนี้ไม่ว่าหญิงหรือชายต่างเป็นคนที่มีเกียรติ ด้วยสิ่งที่พวกเขาทำนั้น ผมอยากขอบคุณเจ้าหน้าที่โรงพยาบาทุกคนที่ทุ่มเททำงานกันอย่างหนักเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น” รูดิเกอร์ กล่าวเสริม
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัสในเยอรมนีกลับมาระบาดหนักอีกระลอก โดยตอนนี้มียอดผู้เสียชีวิตมากกว่า 20,000 รายแล้ว